โฆเซ่ เอ็นรีเก้ อดีตแบ็กซ้าย "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ถูกตรวจพบว่ามีเนื้องอกในสมองเมื่อเดือนพฤษภาคม 2018 และเข้ารับการผ่าตัดเนื้อร้ายออกจากสมอง อย่างไรก็ตามการรักษาด้วยวิธีใหม่ซึ่งเรียกว่า การฉายรังสีโปรตอน ส่งผลให้เขาไม่สามารถผลิตน้ำตาได้อีกต่อไป เอ็นรีเก้ เปิดใจกับ "มาร์ก้า" สื่อดังบ้านเกิดว่า "มันเป็นอะไรที่เสี่ยงมากๆ โชคดีที่ผมรีบเอาตัวเองเข้าสู่ขั้นตอนในการรักษา และผมต้องเสี่ยงกับการรักษาแบบใหม่ที่ปารีส มันเรียกว่าการฉายรังสีโปรตอน ส่วนผลที่ตามมาก็คือผมไม่สามารถร้องไห้ได้อีกแล้ว ร่างกายของผมไม่ผลิตน้ำตาอีกต่อไป" นอกจากนี้ เอ็นรีเก้ ยังเผยถึงตอนที่ถูกตรวจพบว่าเป็นเนื้องอกในสมองว่า "ผมเข้าไปพบกับโค้ชไบรท์ตัน และผมรู้ว่าคงมีอะไรซักอย่างเกิดขึ้น ตอนที่พวกเขาแจ้งข่าวให้ทราบมันเป็นอะไรที่น่ากลัวที่สุด หลังจากนั้นคุณมองเห็นคุณค่าของทุกๆ อย่างมากยิ่งขึ้น ชีวิตของผมเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ผมประหลาดใจกับตัวเองที่ผมมองเห็นเรื่องในด้านบวกมากยิ่งขึ้น แน่นอนว่าผมต้องเจอกับช่วงเวลาที่เลวร้ายเช่นกัน แต่รอบๆ ตัวผมรายล้อมไปด้วยผู้คนมากมายที่รักผม" ขณะเดียวกัน เอ็นรีเก้ ยังกล่าวถึง เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมันของ ลิเวอร์พูล ว่า "ตอนแรกเขาดูเหมือนคนบ้าๆ บอๆ แต่หลังจากนั้นคุณจะเห็นเขาเป็นคนที่น่าอัศจรรย์มากๆ บุคลิกของเขามักจะผูกติดกับนักเตะ ผมซาบซึ้งใจมากๆ ที่เขาเคยให้ผมเป็นกัปตันทีมลิเวอร์พูล" ทั้งนี้ เอ็นรีเก้ ถูกปล่อยตัวออกจากถิ่นแอนฟิลด์ ในปี 2016 และเซ็นสัญญากับสโมสรเรอัล ซาราโกซ่า โดยเขาได้ลงเล่น 27 เกม ก่อนที่จะจำใจต้องแขวนสตั๊ดหลังจากนั้น 1 ปี เพราะมีปัญหาบาดเจ็บหัวเข่าเรื้อรัง