ศึกฟุตบอล ''เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018'' ระหว่างวันที่ 8 พ.ย.-15 ธ.ค. 61 โดยทีมชาติไทยอยู่ในกลุ่ม บี ร่วมกับ อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์ และ ติมอร์-เลสเต โดยนัดแรกวันที่ 9 พ.ย. ทีมชาติไทย พบ ติมอร์-เลสเต เวลา 19.00 น. ที่สนามราชมังคากีฬาสถาน ถ่ายทอดสดทางช่อง 7HD โดยบัตรมีจำหน่ายแล้วที่ ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ ทุกสาขา โดย มิโลวาน ราเยวัช กุนซือใหญ่ชาวเซอร์เบียของทีมชาติไทย กล่าวว่า ''การฝึกซ้อมที่ผ่านมาเป็นไปได้ดี ตอนนี้ทุกอย่างก็พร้อมแล้วในเกมที่จะพบกับ ติมอร์-เลสเต ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ดีในการเล่นในบ้านไม่ต้องเหนื่อยล้าจากการเดินทาง และก็ต้องขอบคุณทีมชาติติมอร์-เลสเต ที่เลือกประเทศไทยเป็นสนามเหย้าของตัวเอง สำหรับเกมวันพรุ่งนี้เราก็จะไม่ประมาทคู่แข่งอย่างแน่นอน เพื่อเก็บ 3 คะแนนประเดิมสวยในทัวร์นาเมนต์นี้'' สำหรับ 11 ตัวแรกของทีมชาติไทย ที่คาดว่าจะลงสนาม มาในระบบ 4-2-3-1 ประกอบด้วย ฉัตรชัย บุตรพรหม (ผู้รักษาประตู), มานูเอล ทอม บีร์, เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว, กรกช วิริยอุดมศิริ, ฟิลิป โรลเลอร์, ธนบูรณ์ เกษารัตน์, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, สรรวัชญ์ เดชมิตร, นูรูล ศรียานเก็ม, มงคล ทศไกร, อดิศักดิ์ ไกรษร ด้าน ทีมชาติติมอร์-เลสเต ภายใต้การคุมทัพของ โนริโอะ สึกิทาเตะ กุนซือชาวญี่ปุ่น วัย 58 ปี เป็นการผ่านเข้ามาเล่นใน ''เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ'' รอบสุดท้าย ได้สำเร็จในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของติมอร์-เลสเต แถมชุดนี้มีผู้เล่นอายุไม่เกิน 21 ปีร่วมลุยทัวร์นาเมนต์ซูซูกิคัพ 2018 ถึง 17 รายด้วยกัน อีกทั้ง 7 คนในนั้นยังมีอายุไม่ถึง 20 ปีอีกด้วย สถิติการพบกันของทั้งสองทีมในเกมระดับนานาชาติยังไม่เคยเจอกันมาก่อน โดยเกมคู่นี้ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ได้ส่งจดหมายมายังสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย รับรองสถานะให้เป็นเกมระดับ FIFA International ''A'' Match ซึ่งจะทำให้ผลการแข่งขันถูกคิดเป็นคะแนนบนอันดับโลกของฟีฟ่าอีกด้วย
