ข่าวบอลไทย

ศนุกรานต์ ถิ่นจอม ขวัญใจคนใหม่ "สุภาพบุรุษวงจักร"

"ด้วยสรีระที่ผอมบาง ทำให้ผมโดนปฎิเสธ หลายครั้ง จากสถาบันลูกหนังขาสั้น ทั้งอัสสัมชัญธนบุรี,อัสสัมชัญศรีราชา,กรุงเทพคริสเตียน แต่ก็ไม่เคยท้อถอย พยายาม มุมานะทำตามฝันของตนเอง จนได้มายืนอยุ่บนเวทีลีกสุงสุด ของประเทศ อย่างที่ใฝ่ฝัน"

การที่ใครสักคนจะเดินเข้ามาแจ้งเกิดบนวีถีลูกหนังนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ หากไม่มีความมุ่งมั่นตั้งใจจริง บางครั้งบางที พรสวรรค์ ไม่เพียงพอ หลายคนฟันฟ่าอุปสรรคเกือบตายแต่ไปไม่ถึงฝั่งฝันที่ตั้งใจเอาไว้จนถอดใจทึ้งไว้กลางทา แต่ในขณะที่หลายคนก็มีความพยายามมุมานะ จนที่สุดแล้วก็สามารถไขว่คว้าความสำเร็จมาครอบครองได้ เช่นเดียวกันกับ"เจ้าเกมส์" ศนุกรานต์ ถิ่นจอม กองกลางที่กำลังเป็นที่จับตามองของทั"สุภาพบุรุษวงจักร&quo อาร์มี่ ยูไนเต็ด อยู่ในเวลานี้ ซึ่งกว่าเจ้าตัวจะมายืนตรงจุดนี้ได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายประหนึ่งปอกกล้วยเข้าปาก วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับแข้งรายนี้แบบเจาะลีกตั้งแต่เด็กยันทีมงานสยามก .......................... ศนุกรานต์ ถิ่นจอม เด็กหนุ่มจากจังหวัด แพร่ เล่าให้ทีมงานฟุตบอลสยามฟังว่า ตนเองเริ่มเข้ามาสู่วิถีลูกหนังไม่ได้แตกต่างกับคนอื่นๆ หลงไหลในกลิ่นสาปลูกหนังตั้งแต่เด็กๆ จนกระทั่งร่ำเรียนจนจบชั้นมัธยม 3 ก็มีความคิดว่าที่ จ.แพร่ เหมือนจะเล็กเกินไปกับความสามารถที่มีอยู่ และด้วยความคิดที่ต้องการจะแบ่งเบาภาระของครอบครัว เนื่องจากทราบมาว่า ที่เมืองหลวงนอกจากจะมีความศิวิไลในด้านต่างๆแล้ว สถาบันชื่อดังในระดับลูกหนังขาสั้นนั้นต่างกระจุกตัวอยู่ที่แห่งนี้หากสามารถคัดตัวได้ก็จะมีที่อยู่ที่เรียนฟรี และยังได้ฝึกฟุตบอลกีฬาที่โปรดปรานอีกต่างหาก ทั้งหมดทั้งหมด จึงกลั่นเป็นความคิดที่ตกผลึกมีเป้าหมายเดียวนั้นก็คือการผจญภัยในกรุงเทพฯ นั้นทำให้เจ้าตัวตัดสินใจเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าทันท "สถาบันแรกที่ผมเข้ามาคัดตัวด้วยคือ อัสสัมชัญธนบุรี ที่นี่ มีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องของฟุตบอลระดับนักเรียนมาก จึงเป็นที่แรกที่ผมเลือก แต่ทุกอย่างก็ไม่ได้ง่าย เรามั่นใจในฝีเท้าของเราเพราะที่ แพร่ ผมเองก็ถือว่าเป็นที่สุดในระดับเดียวกัน ความมั่นใจมีสูง แต่เมื่อถูกปฎิเสธมันค่อนข้างตกใจ ตอนนั้นยอมรับว่าเสียใจ ก็เลยตัดสินใจกลับบ้าน แต่ในหัวก็ไม่เคยท้อแท ปีต่อมา ผมเดินทางเข้ากรุงเทพฯอีกครั้งคราวนี้เป้าหมายอยู่ที่ อัสสัมชัญ ศรีราชา ประสบการณ์ครั้งแรกทำให้เรารู้ว่าควรทำอย่างไร แต่ก็เหมือนเดิม ผมโดนปฎิเสธอีก จึงไปคัดตัวกับ กรุงเทพคริสเตียน ซึ่งคำตอบก็เหมือนเดิม นั้นคือการโดนปฎิเสธอีกครั้ง มาทราบที่หลังว่าส่วนหนึ่งที่ผมโดนบอกปัดเป็นเพราะอายุเราเกินไป 1 ปี เราเริ่มเรียนช้าไป 1 ปี ซึ่งอายุจะเหลื่อมกันกับคนอื่นๆ มันจะเล่นได้ไม่เต็มรุ่น รวมไปถึง สรีระที่ค่อนข้างบางของผมก็อาจจะมีส่วนด้ว การพลาดครั้งนี้ก็เสียใจแต่ก็ยังไม่ท้อแท้ เดินทางกลับไปทำใจที่บ้าน ตอนนั้น อายุ 17 ซึ่งก็ใกล้ที่จะจบ ม.ปลาย แล้ว แต่ก็ยังมีหวังนิดๆ สุดท้ายผมตัดสินใจไปคัดตัวกับ พานิชยการ ราชดำเนิน ที่นี่หยิบยื่นโอกาสให้ผม และยังเปิดทางในการเข้าสู่วงการลูกหนังอย่างเต็มตัว มีโอกาสติดทีมนักเรียนไทย ซึ่งเป็นอะไรที่ผมเองภาคภูมิใจมา ผมเรียนที่ พานิชยการ ราชดำเนิน แค่เทอมเดียว ก็มีคนแนะนำไปคัดตัวเป็นเยาวชนของสโมสร บีอีซี เทโรฯ ผมก็ลองไป ปรากฎว่าผ่านการคัดเลือก พร้อมๆกับ"เจ ชนาธิป สรงกระสินธ์" ได้ลงเล่นในรายการ เอฟเอ ยูธ คัพ ก่อนที่จะคว้าแชมป์ได้สำเร็ หลังจากนั้นเป็นต้นมา ผมก็มีชื่อในทีม บีอีซี เทโรฯ ชุดใหญ่ แต่ยังไม่มีโอกาสได้ลงสนาม ก่อนที่จะมาเล่นให้กับ อาร์แบคฯ ซึ่งเป็นทีมพันธมิตรกับ เทโรฯ ที่นี่ผมได้ลงเล่นอย่างต่อเนื่อง จนไปเข้าตา เอสซีจี เมืองทองฯ ที่ติดต่อเข้ามา ตอนนั้นสัญญากับ เทโรฯ หมดลงพอดี ผมจึงตัดสินใจย้ายมา เอสซีจี เมืองทองฯ แต่ก็ยังไม่ได้เล่นให้ทีมชุดใหญ่ และถูกส่งไปเล่นที่ สโมสร นครนายก ในระยะเวลาสั้น กระทั่งปีนี้ผมติดทหาร และได้มาเล่นกับทีมชุดใหญ่ อาร์มี่ ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 2016 ที่มี เสธ.เหนียว พ.อ.วัชรกร อันทะคำภู เข้ามาเป็นโค้ชพอดี ซึ่งผมเองเคยร่วมงานกันกับโค้ช สมัยที่ติดทีมนักเรียนไทย ก็เลยมีโอกาสมาเล่นให้กับ อาร์มี เชื่อไหมนี่เป็นครั้งแรกในการลงเล่นลีกสูงสุดของผม ตอนแรกๆที่ลงสนามยอมรับว่าตื่นเต้น และเกร็งมาก กลัวว่าเราจะทำให้พี่ๆในทีมสะดุด แต่ทางโค้ชก็ให้โอกาสเรื่อยมา หลังจากผ่านไป 2-3 เกม ผมเริ่มปรับตัวได้ก็ไม่มีปัญหา และกับการพบกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดในเกมล่าสุด ซึ่งผมทำประตูชัยให้กับทีมได้ก็เป็นอีกหนึ